‘นักวิชาการ’ เสนอรัฐขึ้นภาษีเหล้าขาว หวังลดนักดื่มรายได้น้อย
เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ณ โรงแรม เดอะสุโกศล กรุงเทพฯ นายสุทธิกร กิ่งแก้ว นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ได้กล่าวตอนหนึ่งในงานเสวนา “มิติใหม่ เที่ยวไทย กับวัฒนธรรมกินดื่ม” จัดโดย สำนักข่าวเออีซี10 นิวส์ โดยกล่าวตอนหนึ่งถึงนโยบายขยายเวลาสถานบันเทิงถึงตี 4 ว่า สามารถทำได้ แต่ต้องเริ่มจากจำกัดเป็นพื้นที่โซนนิ่งเพียงไม่กี่จังหวัดก่อน หากได้ผลดีก็ค่อยขยายไปจังหวัดอื่นๆ แต่สิ่งที่อยากเสนอให้รัฐบาลแก้ปัญหาคือวัฒนธรรมการดื่มของผู้มีรายได้น้อยที่เข้าถึงการบริโภคสุราราคาถูกได้ง่าย จนเป็นบ่อเกิดความเสียหาย ทั้งด้านสุขภาพ สังคม และงบประมาณ เนื่องจากทุกวันนี้ โครงสร้างภาษีสุรายังมีความลักลั่นอยู่ โดยเฉพาะสุราขาวมีราคาเริ่มต้นเพียงขวดละ 110 บาท แต่ดีกรีความเมากลับสูงมาก
ดังนั้นรัฐบาลควรพิจารณาขึ้นภาษี กลุ่มสุราราคาถูก โดยเฉพาะสุราขาวให้แพงขึ้น เพื่อช่วยลดปริมาณการดื่มของคนมีรายได้น้อย เพราะทุกวันนี้สุราขาวมีดีกรีสูงสุด แต่กลับถูกเก็บภาษีต่ำสุด เรียกเก็บภาษีตามมูลค่า เพียง 2% ถูกกว่าเบียร์ที่เสียถึง 22% ไวน์ 10% สุราแช่ผลไม้ 10% ขณะที่ภาษีที่เก็บตามปริมาณแอลกอฮอล์ ก็ควรขึ้นเพราะปัจจุบันสุราขาว 40 ดีกรีเสียภาษีเพียงขวด 60 บาท ถูกกว่าไวน์ที่เก็บขวด 150-200 บาท ซึ่งราคาสุราขาว ที่เหมาะสมควรขายที่ 200-300 บาท
นายเจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการทางด้านกฎหมาย กล่าวถึงนโยบายขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 ว่า รัฐบาลควรมีการศึกษานโยบายก่อนตัดสินใจทำทั้งข้อดีข้อเสียก่อน ส่วนสาเหตุที่รัฐบาลเลือกเฉพาะพื้นที่นำร่อง 4 จังหวัดคือ กรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ และภูเก็ต อาจมองได้ว่าเป็นการทำหวังผลทางการเมืองหรือไม่ เพราะทั้ง 4 พื้นที่นี้ รัฐบาลเพิ่งแพ้การเลือกตั้งมาทั้งหมด นอกจากนี้ อยากให้รัฐบาลรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน เช่น ผู้ประกอบการ รวมถึงพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ที่เชื่อมโยง อย่างความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีเพียงพอหรือไม่คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
“หากรัฐบาลศึกษาแล้วว่าเป็นนโยบายที่ดีคุ้มค่า ช่วยกระตุ้นท่องเที่ยวได้จริง ก็สามารถเปิดมากกว่าแค่ 4 จังหวัด แต่หากรัฐบาลยังไม่ได้ทำ ก็ไม่จำเป็นต้องรีบเปิดในเดือนธันวาคมนี้ สามารถทยอยเปิดทีหลังได้ ที่สำคัญรัฐบาลไม่จำเป็นต้องโฆษณาเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาไทยด้วยการชวนมากินดื่มอย่างเดียว เพราะที่จริงประเทศไทยมีจุดแข็งหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ขนบประเพณี ซึ่งเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ที่ดีกว่าการชวนมากินดื่ม หากผลักดันเรื่องเหล่านี้ เชื่อว่าจะกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ดีกว่าขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงแน่นอน”
นายดำรงค์เกียรติ พินิจการ เลขานุการสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิง และการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า การขอขยายเวลาปิดสถานบันเทิง เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการพยายามมาตลอด เพราะทุกวันนี้การแข่งขันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีเยอะมาก หลายประเทศอย่างสิงคโปร์ เกาหลีใต้ หรือยุโรป ค่อนข้างผ่อนปรน เปิดได้ถึง 6 โมงเช้า ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวต่างชาติได้ดีกว่า ที่นิยมช่วงหัวค่ำออกมารับประทาน จากนั้นหาบาร์นั่งดื่ม และปิดท้ายด้วยการเข้าสถานบันเทิง
ทั้งนี้ อยากให้รัฐบาลขยายพื้นที่โซนนิ่งในเมืองพัทยา เพราะปัจจุบันเมืองพัทยาเติบโตขึ้นมาก หากโซนนิ่งยังเท่าเดิม จะเกิดปัญหาการแอบเปิดสถานบันเทิงนอกโซนนิ่ง จะตรวจสอบดูแลได้ยาก คาดว่าการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงทำให้ธุรกิจยามค่ำคืนในพัทยามีเงินสะพัดเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 30-40%